เมนูบริการ

 

 
 สถิติวันนี้ 35 คน
 สถิติเมื่อวาน 19 คน
 สถิติเดือนนี้
สถิติปีนี้
สถิติทั้งหมด
5386 คน
8956 คน
258996 คน
เริ่มเมื่อ 2015-04-14

 

                                                     หน้าที่สำคัญกว่าลมปาก
กิร ดังได้สดับมา       
          ฤาษีผู้มีฤทธิ์ตนหนึ่งสามารถเหาะเหิรเดินอากาศได้ ดำน้ำลุยไฟได้ เช้ามืดวันหนึ่ง หลังจากออกจากฌานแล้วอยากจะหาเพื่อนคุยแก้เหงาบ้าง แต่ไม่รู้จะคุยกับใครดีเพราะไปชวนคุยมาหมดแล้ว พอดีพระอาทิตย์โผล่ยอดเขามาพอดี ได้เพื่อนคุยแล้วล่ะ ฤาษีคิดพร้อมเหาะลิ่วไปหาพระอาทิตย์ ถึงรัศมีจะร้อนแรงอย่างไรก็หาได้ระคายเคืองผิวพระฤาษีไม่ด้วยอำนาจฌาณของท่าน พอเข้าไปใกล้จึงถามว่า            
          “ท่านอาทิตย์ ท่านไม่เบื่อบ้างหรือไง ขึ้นแล้วตกๆทุกวันตรงตามเวลาด้วย”
          “เบื่อไม่ได้หรอกท่านฤาษี มันเป็นหน้าที่ของข้าพเจ้าอยู่แล้ว” พระอาทิตย์ตอบด้วยอารมณ์ดี
          “ท่านทำหน้าที่แข็งขัน ไม่เคยเบื่อหน่าย ไม่เคยเบี้ยวสักวัน พวกมนุษย์รู้สึกต่อท่านอย่างไร ท่านรู้ไหม” ฤาษีเริ่มเปลี่ยนเรื่อง
          “เออนั่นสิ แล้วมนุษย์รู้สึกอย่างไรกับข้าพเจ้ากันบ้าง ท่านก็เป็นมนุษย์ ลองเล่าให้ข้าฟ้งบ้างสิ”พระอาทิตย์ถามฤาษีบ้าง
          “เวลาท่านขึ้นไปอยู่กลางฟ้านะ คนที่กำลังเดินทางอยู่กลางแดดก็จะบ่นนินทาท่านว่าวันนี้ทำไมมันร้อนเปรี้ยงอย่างนี้ ร้อนจะตับแตกอยู่แล้ว อะไรทำนองนี้ แต่คนที่ซักผ้า กำลังตากผ้าอยู่ชอบและชมท่านนะว่าแดดดีจังเลย พระอาทิตย์เป็นใจ”
          แล้วคนที่ด่าข้าพเจ้านั้นเขาชังข้าพเจ้า และคนที่ชมข้าพเจ้านั้นเขาชอบข้าพเจ้าหรือไงกัน”พระอาทิตย์ชักสนุกในการคุย จึงย้อนถาม
          “ก็คงไม่ใช่มั้ง เพราะคนที่ด่าท่านไว้ วันหลังเขาไม่ได้ไปไหน นั่งนอนอยู่แต่ในบ้าน เขาก็มิได้บ่นหรือสนใจท่าน ท่านจะแผดแสงเปรี้ยงหรือผ่อนเย็นลงอย่างไรเขาไม่รับรู้ด้วย ส่วนผู้ที่เคยชมท่าน วันหลังท่านถูกเมฆบังหนาทึบจนไม่มีแดดให้เขาตากผ้า เขาก็บ่นเอากับท่านเหมือนกัน เอาแน่นอนไม่ได้หรอกท่าน”
          “มนุษย์เขาเป็นกันอย่างนี้หรือท่านฤาษี”
          “เป็นอย่างนี้แหละ อย่าว่าแต่ท่านเลย แม้ท่านวัสสุเทพเจ้าแห่งฝนก็โดนมนุษย์เขาเล่นงานเสมอ จนมีคนพูดกันว่าฝนตกก็แช่ง ฝนแล้งก็ด่า แล้วท่านไม่คิดเบี้ยวไม่ขึ้นสักวันหรือไร จะได้สั่งสอนมนุษย์ให้รู้สำนึกและระวังปากระวังคำเสียบ้าง” ฤาษีแหย่เพื่อดูท่าที
          พระอาทิตย์รีบตอบทันที “โอ๊ย ไม่ได้หรอกท่าน มันเป็นหน้าที่ มนุษย์เขาจะบ่นว่าหรือชมข้าพเจ้าอย่างไร ข้าพเจ้าไม่ได้ยินหรือสนใจด้วยหรอก ว่ากันตามสบายเถอะ ข้าพเจ้าไม่ได้ดิบดีหรือเดือดร้อนเพราะปากของพวกมนุษย์หรอก”
          ฤาษีนิ่งฟังอยู่ พระอาทิตย์เลยตัดบท “ขอบคุณท่านฤาษีมากนะที่มาชวนคุย วันหลังนิมนต์มาอีก”
          เรื่องนี้สื่อความได้ว่า
          คนที่ทำหน้าที่ใหญ่ๆและอยู่สูงย่อมถูกกระแสลมปากคนมากกว่าคนปกติ เหมือนดวงอาทิตย์ที่ลอยอยู่บนฟ้า เรื่องของปากคนเราห้ามเขาไม่ได้ การยกย่อง การสรรเสริญ และการนินทาว่าร้ายนั้นส่วนใหญ่เกิดจากความชอบ ความชังเป็นการส่วนตัว และเกิดจากผลประโยชน์เป็นใหญ่ ถ้าเราเอื้อประโยชน์ให้เขาได้ยิ่งให้มากจนจุใจเขา เขาก็จะยกย่องเราไม่ขาดปาก ทั้งที่เราเองก็อาจจะมีจุดด้อยให้เขาด่าอยู่ แต่เขาจะมองข้ามไปเสีย แต่หากเราเอื้อประโยชน์ตามที่เขาต้องการให้ไม่ได้ ต่อให้เราวิเศษดีแสนดีอย่างไร เขาก็จะหาเรื่องมาด่ามานินทาเราจนได้
          เรื่องของคนเป็นอย่างนี้ตลอดมา ท่านจึงสอนว่าให้หนักแน่นเข้าไว้ มั่นคงเข้าไว้ ไม่หวั่นไหวไปตามลมปาก ไม่นำมาเป็นอารมณ์ ไม่อย่างนั้นเราเองนั่นแหละจะไม่เป็นตัวของตัวเอง จะเป็นทุกข์ฟุ้งซ่านและนอนไม่หลับเพราะเก็บเอาคำคนอื่นมานั่งคิดนอนคิดให้เป็นกังวลตลอดเวลา ต้องทำตัวทำใจให้เหมือนดวงอาทิตย์ ย่อมสุขกายสบายใจแน่นอน.
 

 

                                
                                           
  coopyright   ( c )  by  : pngoen.com      .วัดภูเงินวนาราม   ตำบลบ้านฝาย  อำเภอน้ำปาด   จังหวัดอุตรดิตถ์