ธรรมะโอสถ
กิร ดังได้สดับมา
ชายหนุ่มคนหนึ่งคิดว่า พระพุทธศาสนาต้องมีดีอะไรแน่นอน ไม่อย่างนั้นผู้เฒ่าผู้แก่ทั้งหลายคงจะไม่ทำบุญให้ทานใส่บาตรพระสงฆ์ได้ทุกวัน จึงอยากได้อะไรดีๆจากพระพุทธศาสนาบ้าง เขาขอสมัครเข้าไปบวชเป็นพระอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง
หลังจากบวชแล้ว เขาก็ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนธรรมะและสอบได้ถึงนักธรรมชั้นเอกซึ่งเป็นชั้นสูงสุด หลังจากนั้นได้พยายามท่องพระปาฏิโมกข์จนจำได้คล่องแคล่ว และอ่านหนังสือพระไตรปิฎกจนจบ ๔๕ เล่ม บางเล่มอ่านหลายเที่ยว เพราะเป็นคนขยันเอาจริงเอาจัง เขาบวชได้ ๘ พรรษาก็ขอลาสึก
หลังจากสึกแล้วก็ไปมีครอบครัวทำมาหากินเหมือนคนทั่วไป แต่ไม่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ยังตั้งตัวไม่ได้
หลายปีผ่านไปก็ไม่ทำให้เขาดีขึ้น เขาจึงคิดว่าธรรมะที่เขาได้เรียนมาไม่ได้ช่วยอะไรเขาเลย
วันหนึ่งเขาไปหาหลวงพ่อที่วัด แล้วบอกท่านว่า
หลวงพ่อครับ ธรรมะในพระพุทธศาสนานี่ ผมเห็นว่าไม่มีประโยชน์อะไร ผมศึกษาเล่าเรียนจนรู้เรื่องตลอด แต่ก็ไม่ช่วยให้ผมดีขึ้นได้เลย ผมยังตั้งตัวไม่ได้จนเดี๋ยวนี้
หลวงพ่อฟังแล้วได้แต่ยิ้มๆไม่ต่อความอะไร และไม่ได้อธิบายไขข้อข้องใจให้เขาฟัง ด้วยเห็นว่าเขาเรียนมามากแล้ว เขาเห็นว่าหลวงพ่อนิ่งเฉยอยู่จึงลากลับบ้าน
ต่อมาไม่กี่วันหลวงพ่อไม่สบาย เป็นหวัดและไอเจ็บคอมาก จึงให้เด็กวัดไปตามทิดคนนั้นมาและเล่าอาการให้ฟัง ทั้งขอให้ไปซื้อยาแก้ไอให้หน่อย
เขารับปากหลวง แล้วก็ไปตลาดซื้อยาแก้ไอมาถวายหลวงพ่อ หลังจากนั้นอีก ๒-๓ วันเขาเข้าไปหาหลวงพ่ออีกเพื่อถามอาการ
เป็นไงบ้างครับหลวงพ่อ หายดีแล้วหรือยัง
ยังไม่หายเลยดูเหมือนจะหนักกว่าเก่าเสียด้วย หลวงพ่อตอบเสียงแหบๆและไอโขลกๆแล้วเสริมว่า สงสัยจะซื้อยาผิดมาจึงไม่ได้ผล
เขาหยิบขวดยามาดูให้แน่ใจ มันก็เป็นยาแก้ไอ ฉลากยาก็บอกว่ายาแก้ไอ แก้เจ็บคอ ขับเสมหะ
เขาจึงถามหลวงพ่อว่า
หลวงพ่อไม่ได้อ่านฉลากยาหรือครับ
อ่านสิ อ่านหลายครั้ง อ่านจนท่องจำได้ว่าแก้ไอ แก้เจ็บคอ ขับเสมหะ
อ้าวแล้วทำไมหลวงพ่อยังไม่หายล่ะครับ
ฉันไม่ได้กินมัน ฉ นแค่อ่านฉลากอย่างเดียว หลวงพ่อตอบหน้าตาเฉย
เขาชักฉุนหลวงพ่อ เลยต่อว่าไปว่า
โธ่หลวงพ่อ ยานี่แค่อ่านฉลากอย่างเดียวแต่ไม่ได้กิน มันจะรักษาโรคให้หายอย่างไรกัน หลวงพ่อก็
เออจริงของเอ็ง ไหนส่งยามาให้ซิ
หลวงพ่อตอบแล้วเปิดขวดยาที่เขาส่งให้ ยกขึ้นจิบนิดหนึ่งแล้วพูดว่า
ธรรมะของพระพุทธเจ้า ก็เหมือนยาแก้ไอขวดนี้นั้นแหละ ไอ้ทิดเอ๊ย อ่านแต่ธรรมะที่อยู่ในตำราพระไตรปิฏก แต่ไม่ได้เอาปฏิบัติตาม ก็แก้ทุกข์แก้จนให้ไม่ได้หรอก เหมือนอ่านแค่ฉลากยาจะทำให้หายโรคได้อย่างไรกัน จริงไหมเล่า
เขาไม่ตอบหลวงพ่อแต่ตาสว่างขึ้นมาทันที.
เรื่องนี้สื่อความได้ว่า :
ธรรมะในพระพุทธศาสนาทุกข้อมีประโยชน์
คือ เป็นธรรมะโอสถ เป็นยาแก้ทุกข์ เป็นเครื่องกำจัดทุกข์
แต่เพียงเรียนรู้ว่าธรรมะข้อนั้นๆมีความหมายว่าอย่างนี้
มีประโยชน์อย่างนี้ และควรปฏิบัติอย่างนี้เท่านั้น
หาได้แก้ทุกข์และกำจัดทุกข์ให้ได้ไม่
ต้องนำความรู้นั้นๆไปปฏิบัติตาม
อย่างถูกต้อง จริงจัง และต่อเนื่อง จึงจะสมผลประโยชน์
เหมือนแค่อ่านฉลากยา แต่ไม่รับประทานยา
ก็ไม่อาจทำให้หายโรคได้ ฉะนั้น
เรื่องนี้สื่อความได้ว่า :
การเรียนรู้ธรรมะเป็นเพียงทำให้รู้จักและเข้าใจธรรมะเท่านั้น แต่การเข้าถึงธรรมะด้วยการปฏิบัติตามที่เรียนรู้มานั้นต่างหาก ที่จะได้รับผลอันเป็นแก่นเป็นสาระแห่งธรรมะอย่างแท้จริง คือทำให้พ้นทุกข์ได้ ทำให้ไม่ยากจนได้ ทำให้อยู่ดีมีสุขได้ เป็นต้น
ดังมีท่านผู้รู้เขียนคำคมให้คิดไว้ว่า
ธรรมใดๆก็ไร้ค่าถ้าไม่ทำ
จึงหากรู้ธรรมะมากมายแล้วแต่ยังไม่หมดทุกข์
ยังลำบากยากเข็ญอยู่ ยังไม่มีความสุขอยู่
ก็อย่าพึ่งด่วนตัดสินว่า
ธรรมะไม่ดี ไม่มีประโยชน์
เพราะอาจเพียงแค่รู้ฉลากยา แต่ไม่เคยบริโภคยาก็เป็นได้.
|